ควันหลง Microsoft ซื้อธุรกิจโทรศัพท์ Nokia

สวัสดีครับ

หลังจาก Microsoft ประกาศแผนเข้าซื้อเฉพาะธุรกิจโทรศัพท์มือถือของ Nokia เมื่อวานนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นของ Microsoft ลดลงประมาณ 6% เนื่องจากผู้ถือหุ้นไม่ค่อยเห็นด้วยกับการซื้อกิจการครั้งนี้เนื่องจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือของ Nokia ไม่ดีนักและขาดทุนถึง $4 พันล้านเหรียญในปี 2012 แต่ราคาหุ้นของ Nokia กลับพุ่งสูงขึ้นถึง 45% เมื่อตลาดหุ้นในฟินแลนด์เปิดทำการ เนื่องจากการขายธุรกิจโทรศัพท์มือถือครั้งนี้ส่งผลให้ Nokia จะมีผลกำไรเพิ่ม 3.2 พันล้านเหรียญยูโร

นักวิเคราะห์เชื่อว่า Microsoft ไม่มีทางเลือกมากนัก เนื่องจากแน้วโน้มการเติบโตของธุรกิจ IT ในอนาคตขึ้นอยู่กับ Mobile Internet ทำให้ Microsoft ต้องการมีธุรกิจโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือเหมือนกับคู่่แข่งสำคัญอย่าง Apple ที่มี iPhone และ Google ที่เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือ Motorola และก็มีแต่ Nokia เท่านั้นที่เป็นทางเลือกที่เหมาะสมเนื่องจาก Nokia เป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายหลักที่ใช้ Windows Phone OS ของ Microsoft

ค่อนข้างแน่นอนว่าหลังจาก deal เสร็จสิ้น Microsoft จะผลิต Smartphone ที่ไม่ใช้ชื่อ Nokia เนื่องจากการซื้อเฉพาะธุรกิจโทรศัพท์มือถือครั้งนี้ Microsoft ไม่ได้ซื้อ Brand ด้วย โดยตามข้อตกลง Nokia จะไม่สามารถขายโทรศัพท์มือถือ Brand Nokia จนกว่าจะถึงปี 2016 (ไม่สามารถใช้ Brand Nokia ในการขายอุปกรณ์และโทรศัพท์มือถือทุกชนิด 30 เดือน และไม่สามารถใช้ชื่อ Nokia กับอุปกรณ์และโทรศัพท์มือถือที่ Nokia พัฒนาเองจนกว่าจะสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2015)

สำหรับ Nokia การตัดสินใจถอนตัวจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการปรับตัวครั้งแรกของ Nokia บริษัทเก่าแก่แห่งนี้มีอายุถึง 150 ปี เริ่มต้นจากธุรกิจโรงงานกระดาษเล็กๆ เมื่อปี 1865 ก่อนจะปรับเปลี่ยนเป็นธุรกิจรองเท้ายาง, ธุรกิจผลิตยางรถยนต์ในปี 1898 ปรับเปลี่ยนอีกครั้งเป็นธุรกิจผลิตอุปกรณ์อีเล็คโทรนิคส์ในครอบครัวเช่น TV ในปี 1910 เข้าสู่ธุรกิจโทรคมนาคมในปี 1963และในที่สุดก็ประสพความสำเร็จอย่างสูงสุดกับโทรศัพท์มือถือ Nokia ซึ่งสามารถครอบครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งในตลาดโลกอยู่ถึง 14 ปี ก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับโทรศัพท์มือถือยุคใหม่ (Smartphone) อย่าง iPhone (iOS) และ Samsung (Android)

เจ้าหน้าที่ของ Nokia เปิดเผยว่าหลังการถอนตัวจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือแล้ว Nokia จะยังคงอยู่ในธุรกิจโทรคมนาคมและ ‘Advanced Technologies' โดยรายได้หลักๆ จะมาจาก

NSN (เดิมคือ Nokia Siemens Networks) ซึ่งเป็นธุรกิจพัฒนาเครือข่ายโทรคมนาคม

HERE ซอฟท์แวร์แผนที่ซึ่งเดิมมีอยู่ในเครือง Nokia แต่ Nokia จะพัฒนาให้สามารถใช้ได้กับทุก OS

รายได้จากสิทธิบัตร โดยทีม R&D ของ Nokia จะให้ความสำคัญกับ ‘Advanced Technologies' เช่น nano technology และ Nokia ยังถือครองสิทธิบัตรกว่า 30,000 รายการ ซึ่ง กว่า 60% ยังมีผลบังคับใช้นานกว่า 10 ปี ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ก้อนใหญ่ของ Nokia

ที่มา: http://techcrunch.com/2013/09/03/why-microsoft-had-no-choice-but-to-purchase-nokias-handset-business/,