ปี 2014 คงจะเป็นปีที่เหนื่อยที่สุดปีหนึ่งของ Samsung เนื่องจากผลกำไรที่ลดลงอย่างมากและล่าสุด Samsung เปิดเผยคร่าวๆ ว่าผลกำไรไตรมาสที่ 3 ลดลงจากปีก่อนถึง 60%
ภายหลังการเปลี่ยนผ่านจาก Feature Phone มาเป็น Smartphone เพียงไม่กี่ปี Samsung ก็สามารถโค่นแชมป์ตลอดกาลอย่าง Nokia ขึ้นเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับหนึ่งในโลก โดยมี Samsung Galaxy เป็นหัวหอกที่สามารถสร้างยอดขายและผลกำไรอย่างถล่มทลายให้กับ Samsung แต่สำหรับปี 2014 ถึงแม้ Samsung ยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในการจำหน่าย Smartphone ไว้ได้ กลับต้องประสพปัญหายอดขายและผลกำไรที่ลดลงอย่างมากเนื่องจากยอดจำน่าย Samsung Galaxy S5 ไม่เปรี้ยงเท่ากับที่ Samsung Galaxy S4 เคยทำไว้และยังต้องรับมือกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งตลาดระดับบนและล่าง
ปัจจุบัน Samsung ครองส่วนแบ่งตลาด Smartphone ประมาณ 25% ลดลงจาก 33% เมื่อปีที่ผ่านมา โดยส่วนแบ่งที่เสียไปส่วนใหญ่เป็น Smartphone ราคาค่อนข้างถูกซึ่งผู้ซื้อหันไปให้ความสนใจ Smartphone รายใหญ่จากประเทศจีน 3 Brand คือ Lenovo, Huawei และ Xiaomi ในส่วนของ Smartphone ระดับบน Samsung ต้องแข่งขันกับคู่แข่งสำคัญอย่าง Apple ซึ่งประสพความสำเร็จมากในการเปิดตัว iPhone6 และ iPhone6 Plus อย่างไรก็ตาม Smartphone จอใหญ่ Samsung Galaxy Note4 ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักวิเคราะห์
สาเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผลกำไรของ Samsung ลดลงมากก็คือค่าเงินวอนเกาหลีที่สูงค่าขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น ทำให้ผู้ใช้ consumer electronics เช่น TV, แอร์คอนดิชั่น ฯลฯ บางส่วนหันไปซื้อสินค้าจากคู่แข่งสำคัญจาก Brand ญี่ปุ่นแทน
Samsung แก้ปัญหาผลกำไรที่ลดลงด้วยการลงทุนถึง $15 พันล้านเหรียญเพื่อสร้างโรงงานผลิต semiconductor chip แห่งใหม่ในเกาหลีใต้ เพื่อรองรับความต้องการ chip ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในลูกค้าสำคัญที่ซื้อ chip จาก Samsung ก็คือ Apple นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Smartphone รุ่นใหม่ๆ ที่ใช้วัสดุใหม่และ design หรู ( A Series) รวมถึงวางแผนเปิดตัว Smartphone ที่ผู้ซื้อระดับกลางและล่างสามารถเข้าถึงได้อีกหลายรุ่น
ที่มา: BBC
0 Comments