Tweet
สวัสดีครับ
Google ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2014 สามารถทำกำไร $4.76 พันล้านเหรียญ (ประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นห้าพันล้านบาท) เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดี่ยวกันของปี 2013 แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ทางการเงินคาดไว้ทำให้มูลค่าหุ้นของ Google ลดลงเกือบ 2% เมื่อวานนี้ (29 มกราคม 2014)
ถึงจะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำโดยมีรายได้สุทธิ $14.48 พันล้านเหรียญ กำไรต่อหุ้น $6.88 เหรียญ แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์การเงินประเมินรายได้สุทธิไว้ที่ $14.7 พันล้านเหรียญและกำไรต่อหุ้น $7.12 เหรียญ รายได้ส่วนใหญ่ของ Google ยังคงมาจากโฆษณา โดย Google มีส่วนแบ่งในตลาดโฆษณาแบบ Online ทั่วโลกประมาณ 31% ในขณะที่ Facebook มีส่วนแบ่งประมาณ 8% อย่างไรก็ตามส่วนแบ่งในโฆษณาผ่านอุปกรณ์ Mobile ของ Google ลดลงจาก 46% ในปี 2013 เหลือ 40% ในปี 2014 ผลประกอบการยังระบุว่าค่า Cost Per Click (อัตรารายได้ที่ Google ได้รับจากผู้ลงโฆษณาเมื่อมีผู้ click โฆษณาแต่ละครั้ง) ลดลง3% แต่จำนวนการ Click โฆษณาเพิ่มขึ้น 14%
Google พยามยามเพิ่มรายได้จากแหล่งอื่นๆ เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากโฆษณาซึ่งการเติบโตค่อนข้างคงที่และมีคู่แข่งสำคัญเพิ่มขี้น (ตัวอย่างเช่น Facebook) โดยมีการลงทุนในการทำ R&D ถึง 16% ของรายได้ โดยมีโครงการสำคัญใน Google X Lab เช่น self-driving cars, smart contact lenses, และ Wi-Fi balloons นอกจากนี้ Google ยังเข้าถือหุ้นใน SpaceX โครงการติดตั้งดาวเทียมขนาดเล็กเพื่อส่งสัญญาน Internet ไปทั่วโลก, และมีโครงการทำธุรกิจ wireless carrier ร่วมกับ Sprint และ T Mobile
Patrick Pichette -Chief Financial Officer หรือ CFO ของ Google ยังยอมรับอย่างกลายๆ ถึงความล้มเหลวของ Google Glass โดยบอกถึง การวางแผนกลยุทธใหม่สำหรับ Google Glass ในอนาคต
ที่มา CNET และ Engadget
0 Comments