งานวิจัยโดยมหาวิทยาลัย Stanford, สหรัฐอเมริกา พบว่า ในแต่ละปีชาวอเมริกันประมาณ 200 คน เสียชีวิตเพราะถูกทำร้ายจากสัตว์ และสูญเสียค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากถูกสัตว์ทำร้ายปีละ $2 พันล้านเหรียญ หรือประมาณหกหมื่นสี่พันล้านบาท
แน่นอนว่าคนทั่วไปส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า สัตว์ที่ทำอันตรายจนมนุษย์เสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ น่าจะเป็น ฉลาม, หมี, และสัตว์ดุร้ายชนิดอื่นๆ แต่งานวิจัยของ Stanford University ซึ่งมี Jared A. Forrester เป็นหัวหน้าคณะ พบว่า ชาวอเมริกันเสียชีวิตเพราะแมลงมีพิษมากที่สุด ประมาณปีละ 86 ราย อันดับรองลงมาคือเสียชีวิตเพราะโดนสุนัขกัด ประมาณปีละ 34 ราย และเสียชีวิตเพราะสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม เช่นโดน ม้า หรือ วัวเตะ
Jared A. Forrester เปิดเผยว่า ระหว่าง ค.ศ. 2008 ถึง ค.ศ. 2015 มีผู้เสียชีวิตเพราะแมลงมีพิษ จำพวก ผี้ง, ต่อ, แตน ประมาณปีละ 86 ราย เกือบทั้งหมดเกิดจากอาการแพ้พิษที่อยู่ในแมลงเหล่านี้ ในขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของฉลามปีละประมาณ 20 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพียงปีละ 0.5 คน (เฉลี่ย 2 ปี เสียชีวิต 1 คน)
ในส่วนของผู้ได้รับอันตรายจากการทำร้ายของสัตว์ไม่มีพิษ พบว่าส่วนใหญ่เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านและในฟาร์ม เช่น สุนัข, แมว, ม้า, วัว, หมู โดยสัตว์ในฟาร์มที่อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงที่สุดคือ ม้า และ วัว Jared A. Forrester แนะนำว่าวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือมาตรการป้องกันอย่างรัดกุม รวมถึงให้ความรู้วิธีปฏิสัมพันธ์ กับสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่อย่างถูกต้อง
งานวิจัยยังพบว่าจำนวนเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี เสียชีวิตเพราะถูกสุนัขกัดมากกว่าผู้ใหญ่ประมาณ 4 เท่า สาเหตุสำคัญเกิดจากเด็กยังไม่เข้าใจวิธีสื่อสารกับสุนัขอย่างถูกต้อง จึงเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่จะต้องป้องกันเด็กไม่ให้เข้าใกล้สุนัขซี่งไม่คุ้นเคย
ที่น่าสนใจคือเมื่อเปรียบเทียบอัตราผู้เสียชีวิตเพราะถูกสัตว์ทำร้ายจากการวิจัยครั้งล่าสุด (ค.ศ. 2008 ถึง ค.ศ. 2015) กับงานวิจัยระหว่าง ค.ศ. 1999 ถึง ค.ศ. 2007 พบว่าอัตราผู้เสียชีวิตไม่ได้ลดลง แม้การศีกษาและเทคโนโลยีจะพัฒนาไปไกลมากแล้วก็ตาม
ส่วนในบ้านเรา ขอเดาว่าที่อันตรายที่สุดน่าจะเป็นสัตว์จำพวกงู ซี่งพร้อมจะปรากฏตัวในทุกสถานที่ แม้แต่ในโถชักโครก!
ที่มา: Earther
Image Credit: Eric Ward
0 Comments